Shea Butter
เป็นไขมันธรรมชาติที่สกัดจากเชียนัทหรือเมล็ดของต้นเชีย มีเนื้อสัมผัสเหนียวข้นคล้ายเนย ส่วนใหญ่ใช้ในประเทศที่มีอากาศหนาวและแห้ง เพราะเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์คุณภาพสูงที่ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย ลดริ้วรอย และอาจแก้ปัญหาด้านผิวพรรณบางประการได้ เพราะอุดมด้วยสารในกลุ่มไขมันจากธรรมชาติ วิตามินอีบริสุทธิ์ วิตามินซี สารโพลีฟีนอล (Polyphenols) สารไตรเทอร์พีน (Triterpene) และสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอีกหลายชนิด
Shea Butter ยังมีคุณสมบัติต้านการอับเสบ
จึงมักถูกใช้เป็นส่วนประกอบหนึ่งในยารักษาโรคผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ แผลเป็น ผิวไหม้แดด สิว หรือโรคสะเก็ดเงิน บางคนอาจใช้ Shea Butter บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ขจัดรังแค ตลอดจนบรรเทาอาการจากโรคข้ออักเสบ โดยมีการศึกษาสรรพคุณที่กล่าวมาบางส่วนในด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
บรรเทาอาการผื่นผิวหนังอักเสบ ตามที่ทราบกันดีว่า Shea Butter เป็นมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และอุดมด้วยวิตามินบำรุงผิวหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และวิตามินอีที่ช่วยป้องกันผิวไม่ให้แห้งกร้าน จึงเชื่อว่า Shea Butter น่าจะใช้เป็นส่วนประกอบในยารักษาโรคผิวหนังอักเสบได้ ซึ่งมีงานวิจัยหนึ่งได้ทดสอบประสิทธิภาพของน้ำมัน Shea Butter กับผู้ป่วยโรคผื่นผิวหนังอักเสบที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยให้ผู้ร่วมทดลองทาผิวหนังด้วยยาที่ประกอบด้วยน้ำมัน Shea Butter สารไดเมธิโคน วิตามินบี และสารอื่น ๆ วันละ 3 ครั้ง ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ จากนั้นเปรียบเทียบผลก่อนและหลังการทดลอง ผลปรากฏว่าสุขภาพผิวโดยรวมและอาการทางผิวหนังของผู้ป่วยดีขึ้นในหลายด้าน เช่น การอักเสบและความแห้งกร้านของผิวหนัง ผิวหนังแตกเป็นแผล การนูนและแข็งของผิวหนัง อาการคัน และอาการอื่น ๆ จึงอาจใช้ Shea Butter เป็นส่วนประกอบของยารักษาโรคผื่นผิวหนังอักเสบชนิดไม่รุนแรงได้ แต่ก็มีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่นำ Shea Butter เพียงอย่างเดียวมาทดสอบประสิทธิภาพในด้านนี้ แต่กลับไม่พบความแตกต่างอย่างชัดเจน ดังนั้น ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมต่อไปจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพราะการทดลองดังกล่าวยังคงมีข้อจำกัด
ลดรอยแผลเป็น Shea Butter มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลเป็นนุ่มลง และฟื้นฟูผิวจากรอยแผลเป็นได้ ด้วยเหตุนี้ Shea Butter จึงมักถูกใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและลดรอยแผล ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยในห้องทดลองงานหนึ่งที่ศึกษาประสิทธิภาพของ Shea Butter ร่วมกับน้ำมันชนิดอื่น และเปรียบเทียบกับยาไตรแอมซิโนโลน (Triamcinolone) ที่เป็นยาใช้รักษาแผลเป็นคีลอยด์ เพื่อดูคุณสมบัติด้านการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์บริเวณแผลคีลอยด์ที่มักมีการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนขึ้นมามากผิดปกติ ผลพบว่าทั้ง Shea Butter และยาไตรแอมซิโนโลนช่วยลดการเจริญเติบโตของเซลล์บริเวณคีลอยด์ได้เหมือนกัน แต่ Shea Butter ให้ประสิทธิผลในการลดจำนวนเซลล์ลงมากกว่า ผลลัพธ์ดังกล่าวจึงอาจแสดงถึงความเป็นไปได้ในการนำ Shea Butter ไปพัฒนาเป็นยารักษาแผลเป็นได้
ป้องกันยุงกัด บางประเทศใช้ Shea Butter เป็นสมุนไพรไล่ยุงตามธรรมชาติ เพราะเชื่อกันว่ามีประสิทธิภาพป้องกันยุง ไม่ก่ออาการแพ้เหมือนสารเคมีไล่ยุงทั่วไป และอุดมไปด้วยอาหารบำรุงผิวหลายชนิดที่อาจลดอาการระคายเคืองจากยุงกัดได้
Shea Butter กับสุขภาพผิวและเส้นผม
ตัวอย่างการใช้ Shea Butter ในชีวิตประจำวัน
- บรรเทาอาการผิวหนังอักเสบหลังการโกนขน หลังจากโกนขน เช็ดบริเวณนั้นให้แห้งด้วยผ้าขนหนูอย่างเบามือ และทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Shea Butter แต่ควรเลือกใช้สูตรที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองของผิว
- บำรุงผิวและลดริ้วรอยตามวัย คนนิยมนำ Shea Butter มาใช้เป็นครีมลดริ้วรอยและบำรุงผิวฉบับโฮมเมด โดยผสมน้ำมันอโวคาโด ¼ ถ้วยตวง น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ ไขผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันวิตามินอี ½ ช้อนชา และ Shea Butter 1 ช้อนชา จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดไปอุ่นให้ละลายจนเข้ากัน เทลงในขวดโหลที่มีฝาปิด และตั้งทิ้งไว้ให้เย็นจนส่วนผสมแข็งตัว ก็จะได้ครีมลดริ้วรอยจากธรรมชาติที่ปราศจากสารเคมี
- ฟื้นฟูผิวไหม้แดด ผลิตภัณฑ์ประเภทมาส์กที่มีส่วนผสมจาก Shea Butter จะช่วยฟื้นฟูผิวจากการโดนแดดเผาได้ง่าย โดยใช้แผ่นมาส์กที่มีส่วนผสมจาก Shea Butter วางแปะทิ้งไว้บนผิวไหม้สักพักแล้วจึงลอกออก
- ป้องกันผมร่วง ใช้น้ำมัน Shea Butter ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ นวดบริเวณหนังศีรษะเบา ๆ จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้น้ำมันซึมลงสู่รากผมได้อย่างเต็มที่ พอครบกำหนดเวลาให้สระผมตามปกติ หรือนำน้ำมัน Shea Butter ไปผสมกับยาสระผมหรือครีมนวดผมที่ใช้ตามปกติในสัดส่วน 5 หยด ต่อยาสระผมหรือครีมนวดผม 30 มิลลิลิตร ก็ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะได้เช่นกัน